Tesla (TSLA) ยังคงเดินหน้า “ถือยาว” Bitcoin อย่างเหนียวแน่น โดยในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้มีการซื้อหรือขาย Bitcoin เพิ่มเติมแต่อย่างใด ยังคงถือครองอยู่ที่ 11,509 BTC เท่าเดิม
แต่ด้วยราคา Bitcoin ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ก็ได้ส่งผลดีต่อมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลในงบดุลของ Tesla โดยมูลค่าได้เพิ่มขึ้นจาก 1.235 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 1.315 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส การเพิ่มขึ้นของมูลค่านี้ ทำให้ Tesla สามารถบันทึก “กำไรทางบัญชี” (ที่ยังไม่ได้ขายจริง) จากการถือครอง Bitcoin ได้ถึง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสนี้
กำไร Bitcoin แค่ ‘เศษเสี้ยว’ ของภาพรวม
แม้ตัวเลขกำไร 80 ล้านดอลลาร์จาก Bitcoin จะดูไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับภาพรวมผลประกอบการของ Tesla แล้ว ถือเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างเล็กน้อย โดยกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทในไตรมาสนี้อยู่ที่ 4.3 พันล้านดอลลาร์ และบริษัทมีเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นไตรมาสสูงถึง 4.16 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับผลประกอบการโดยรวม Tesla รายงานรายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 2.81 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่กำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้ว (ซึ่งไม่รวมกำไรจาก Bitcoin) อยู่ที่ 0.50 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 0.54 ดอลลาร์
กฎบัญชีใหม่-ช่วยสะท้อนมูลค่า Bitcoin ได้ดีขึ้น
สาเหตุที่ Tesla สามารถบันทึกกำไรจาก Bitcoin ในครั้งนี้ได้ เป็นผลมาจาก “กฎการบัญชีใหม่” ของ FASB ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ ซึ่งอนุญาตให้บริษัทสามารถรับรู้กำไรหรือขาดทุนจากราคา Bitcoin ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละไตรมาสได้แล้ว แตกต่างจากกฎเดิมที่บังคับให้บริษัทต้องบันทึกมูลค่า Bitcoin ตามราคาต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลารายงานเท่านั้น และจะบันทึกกำไรได้ก็ต่อเมื่อมีการขายออกไปแล้วเท่านั้น
ที่มา: coindesk
