เกิดแรงสั่นสะเทือนในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัย! ธนาคาร Standard Chartered ได้ออกมาเผยแพร่บทวิเคราะห์ที่น่าจับตา โดยคาดการณ์ว่ารูปแบบการลงทุนแบบ “Sell Gold, Buy Bitcoin” (ขายทองคำ แล้วไปซื้อ Bitcoin) จะกลายเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้นในหมู่นักลงทุนสถาบัน ในขณะที่ Bitcoin ($BTC) กำลังยกระดับตัวเองขึ้นเป็นสินทรัพย์หลบภัยดิจิทัลอย่างสมบูรณ์
คำแนะนำของธนาคารครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ราคาทองคำ ($GOLD) เพิ่งเผชิญกับการปรับฐานลงอย่างรวดเร็ว (Sharp Correction) หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่กว่า $4,250 ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจังหวะที่ Bitcoin แสดงศักยภาพในการดึงดูดเงินทุน (Liquidity) ที่ไหลออกจากทองคำ
‘Metal to Math’: การเปลี่ยนผ่านสู่สินทรัพย์ดิจิทัล
- การ Rotation ที่เกิดขึ้นจริง: บทวิเคราะห์ของ Standard Chartered สอดคล้องกับการสังเกตการณ์ของนักเทรดที่พบว่า ราคา Bitcoin มักจะเริ่มแข็งแกร่งขึ้น เมื่อราคาทองคำเริ่มพักฐาน โดยนักวิเคราะห์มองว่านี่คือสัญญาณการ “หมุนเวียน” (Rotation) ของเงินทุนจากสินทรัพย์โลหะ (Metal) ไปสู่สินทรัพย์ดิจิทัล (Math)
- Bullish ยืนยัน: แม้ว่าราคา Bitcoin จะเผชิญความผันผวนและคำเตือนเรื่องการดิ่งลงสู่ $100,000 ในระยะสั้น แต่ธนาคารยังคงมุมมองเชิงบวก โดยมองว่าการปรับฐานครั้งล่าสุดนี้เป็นเพียง “การชำระล้าง” ที่จำเป็น ซึ่งไม่กระทบต่อเป้าหมายระยะยาว โดย Standard Chartered ยังคงคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจพุ่งถึง $150,000 ภายในปลายปี 2025
ความท้าทาย: เงิน Gold Flows ไม่ใช่ ‘Degen Money’
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การที่ธนาคารใหญ่กล้าออกมาพูดว่า “Sell Gold, Buy BTC” แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้สนใจแค่เรื่องอุดมการณ์ แต่กำลัง “วิ่งตามสภาพคล่อง” (Chasing Liquidity)
อย่างไรก็ตาม มีเสียงท้วงติงว่า:
- ความแตกต่าง: เงินทุนที่อยู่ในทองคำเป็นเงินที่ “ช้า อนุรักษ์นิยม และถูกจอดไว้ในห้องนิรภัยอย่างลึก” (Slow, Conservative, and parked deep in vaults) ซึ่งแตกต่างจากเงินทุนเก็งกำไรในตลาดคริปโต (Degen Money)
- การเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ: การ Rotation ครั้งใหญ่จากทองคำมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ Bitcoin จะต้องใช้เวลาและจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทันทีเหมือนการเทรดทั่วไป แต่การประกาศของธนาคารก็ถือเป็น “การเร่งความเร็ว” ให้สถาบันการเงินดั้งเดิม (TradFi) ต้องยอมรับ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์สำรองในที่สุด
ที่มา: @Ashcryptoreal